Skip to content Skip to sidebar Skip to footer

อยู่ในเหนือคู่แข่งด้วย Facebook Ads เทคนิคสร้างโฆษณาขั้นเทพที่คุณควรรู้!

ส่วนมากพ่อค้าแม่ขายที่นิยมใช้ Facebbok เป็นเครื่องมือในการทำการตลาดและปั้นกำไรให้ตัวเอง จะชื่นชอบในเรื่องของความรวดเร็ว ขายง่าย และไม่เสียค่าใช้จ่ายใช่มั้ยละคะ? แต่จะปังและนำหน้าคู่แข่งกว่ามั้ย? ถ้าคุณสามารถเพิ่มการเข้าถึง เพิ่มยอดขายได้จากการลงโฆษณา Facebook Ads วันนี่ซันนี่เลยมัดรวมวิธีทำ Facebook Ads มาฝากทุกคนกันค่ะ

1. รู้ลึก รู้จริงเรื่องโฆษณาขั้นพื้นฐาน

ประสิทธิภาพของโฆษณาจะไม่เป็นตามที่คาดไว้เลย ถ้าคุณไม่เข้าใจวิธีการลงโฆษณาให้ชัดเจนซะก่อนว่า “Facebook Ads ” แบบไหนเหมาะสมกับสินค้าและบริการของคุณมากที่สุด ซึ่งรูปแบบของโฆษณาบน Facebook มีดังนี้

 – Facebook Post Ads : วิธีทำโฆษณาพื้นฐานที่ทุกคนนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย ซึ่งจะต้องเขียนเนื้อหาและครีเอทรูปภาพให้น่าสนใจลูกค้า
 – Facebook Video Ads : อีกหนึ่งวิธีทำโฆษณาที่ลูกค้า In Love สุดๆ แต่คุณต้องมั่นใจด้วยนะว่าคอนเทนต์นั้นดึงดูดใจ เรียกยอดไลก์มากพอ
 – Facebook Video Poll Ads : แม้คนไทยจะยังไม่คุ้ยหู แต่การทำโฆษณาแบบนี้กำลังฮิตในต่างประเทศแล้วนะ เพราะมันช่วยเพิ่มการรับรู้แบรนด์ได้มากกว่าวิดีโอแบบปกติ
 – Facebook Carousel Ads : วิธีสร้างโฆษณาแบบนี้เหมาะกับการโชว์สินค้าและบริการที่แตกต่างกัน เพื่อให้เห็นรายละเอียดครบถ้วน
 – Facebook Slideshow Ads : เป็นการสร้างโฆษณาจากการรวมรูปภาพเข้าด้วยกันให้เป็นวิดีโอแบบสั้นๆ 
 – Facebook Collection Ads : การโฆษณาแบบนี้สามารถลงสินค้าได้ถึง 5 ชิ้น/ครั้ง แต่จะโชว์เฉพาะคนที่ดู Facebook Ads ผ่านสมาร์ทโฟนเท่านั้นนะ
 – Facebook Canvas Ads : วิธีสร้างโฆษณาแบบเต็มๆ ตาและโหลดเร็วกว่าแบบปกติ เพื่อให้ลูกค้าชอปปิ้งได้ง่ายมากขึ้น

2. ตั้งจุดประสงค์การโฆษณาให้ชัดเจน

กฎเหล็กสำคัญของวิธีสร้างโฆษณาหรือ Facebook Ads นั้น คุณจะต้องกำหนดจุดประสงค์ของการโฆษณาให้ดีและเหมาะสมกับลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายให้ได้มากที่สุด ซึ่งควรเริ่มจากการวิเคราะห์ผลลัพธ์ที่คุณต้องการจากการศึกษากลุ่มเป้าหมายเสียก่อน เช่น คุณต้องการ Brand awareness ก็เน้นโฆษณาลูกค้าใหม่ หรืออยากได้ Engagement ก็เน้นโพสต์เรียกคนมาพูดคุย เป็นต้น

3. กลุ่มเป้าหมายคือหัวใจของ Facebook Ads

ทุกๆ อย่างที่คุณเตรียมมาเพื่อลงโฆษณาจะพังไม่เป็นท่า หากคุณวิเคราะห์และกำหนดกลุ่มเป้าหมายไม่ดีพอ โดยพื้นฐ
านหลักๆ ของการกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ต้องมีเลยก็คืออายุ เพศ อาชีพ ที่อยู่อาศัย เป็นต้น แต่ถ้าคุณอยากเจาะลึกมากกว่านี้ก็สามารถใช้ฟังก์ชั่น “กำหนดกลุ่มเป้าหมายโดยละเอียด” ได้นะ ไม่ว่าจะเป็นความชื่นชอบ หรือความสนใจต่างๆ ของกลุ่มเป้าหมายค่ะ

4. ตั้งใจทำตามกฎการลงโฆษณาแบบเป๊ะๆ

หลายต่อหลายครั้งที่คุณลงโฆษณาไปแล้วแต่ไม่ผ่าน จนต้องมานั่งทำใหม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เผลอๆ อาจถูก Facebook แจกใบแดงแบนบัญชีโฆษณาไปเลยก็มีนะ (แอบโหดเบาๆ) เพราะฉะนั้นคุณต้องศึกษากฎการลง Facebook Ads ทั้งในแบบรูปภาพและวิดีโอให้เข้าใจอย่างถ่องแท้แบบละเอียดยิบด้วยนะ ห้ามพลาดเด็ดขาดไม่งั้นเสียตังค์ เสียเวลาฟรีแน่ๆ

5. อย่าลืมทดลองลงโฆษณาด้วย Audience Targeting

เพราะทุกๆ การสร้างโฆษณาย่อมมีค่าใช้จ่ายเสมอ และเพื่อเตรียมตัวให้คุณรู้ทิศทางของ Facebook Ads ว่าคุณมาถูกทางมั้ย? แนะนำให้ทดลองลงโฆษณาด้วยการใช้โฆษณากับกลุ่มเป้าหมายเล็กๆ ก่อน หรือไม่ควรเกิน 2 แสนคน) และพอคุณมั่นใจแล้วว่ามันปังแน่ๆ ก็ค่อยขยายวงให้กว้างขึ้นจากการเพิ่มความสนใจขนาดใหญ่ๆ อาจหลายล้านคนทีหลังก็ได้ค่ะ

6. ติดตามลูกค้าด้วย Facebook Pixel

ก่อนที่จะเริ่มใช้ Facebook Pixel เพื่อติดตามกลุ่มลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น คุณจะต้องมีเว็บไซต์มารองรับ Pixel ที่สร้างจาก Facebook ก่อนนะ ซึ่งการทำงานของ Pixel นั้นจะทำการเก็บข้อมูลที่ช่วยให้คุณเกาะติดพฤติกรรมต่างๆ ของลูกค้าในช่วงที่อยู่ในเว็บไซตได้ และคุณสามารถเอาข้อมูลเหล่านั้นมาทำ Remarketing ได้อีกด้วย 

แถมข้อดีของ Facebook Pixel ยังช่วยต่อยอดให้คุณเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น ส่งผลให้เห็นวิธีสร้างโฆษณาให้ถูกใจพวกเขาได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นทวีคูณ

7. ยิ่งทดสอบ Facebook Ads บ่อยๆ ยิ่งมีประสิทธิภาพ

เพื่อให้คุณเรียนรู้และเข้าใจระบบการทำงานของ Facebook Ads ได้ดีที่สุด การทดสอบบ่อยๆ จะทำให้คุณรู้ว่าโฆษณาแบบไหนตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายมากที่สุด แต่ใช่ว่า.. วิธีการลงโฆษณาครั้งนี้มันจะดีแบบนี้ตลอดไปนะ ดังนั้นคุณควรทำการทดสอบ Facebook Ads อย่างสม่ำเสมอจากการใช้ A/B Testing เช่น โพสต์ A ใช้ภาพนิ่งที่เน้นการขาย ส่วนโพสต์ B ใช้วิดีโอที่นำเสนอเคล็ดลับต่างๆ เป็นต้น

8. Content ที่ดีคือจุดขายของแบรนด์

เรียกว่าการจะยืนหนึ่งใน Facebook Ads หรือโพสต์ทั่วๆ ไปได้ คุณจะต้องผลิต Content ที่ดีและตอบโจทย์กับกลุ่มเป้าหมายอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการเขียนบทความ การใช้รูปภาพ หรือแม้แต่การทำโพสต์ VDO  ซึ่งพ้อยท์หลักของการสร้างสรรค์ Content ก็เพื่อกลุ่มลูกค้าหลัก เพื่อให้คุณได้สานสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และลูกค้าไว้อย่างเหนียวแน่น และถ้าคุณเพิ่มพลังการลงโฆษณาให้ Content ที่ดีที่สุด เผลอๆ คุณอาจได้ลูกค้าใหม่เพิ่มด้วยก็ได้นะคะ

9. Engagement กระตุ้นการเข้าถึงระยะยาว

อย่างที่รู้กันดีว่าระบบอัลกอริทึมของ Facebook ค่อนข้างให้คุณค่ากับโพสต์แบบออร์แกนิก ยิ่งมีคนเข้ามามีส่วนร่วมกับโพสต์ (Like / Comment / Share) สร้าง Engagement มากแค่ไหน ยิ่งกระตุ้นให้เกิด Organic Reach มากยิ่งขึ้นแค่นั้น แถมยังประหยัดค่า Facebook Ads ได้มากมายจนคุณต้องอุทานว่าโอเค.. นัมเบอร์วัน!! จดสูตรไว้เลยนะคะว่า Facebook Ads + Engagement คือการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพแบบยาวย๊าวววว

ท้ายที่สุดแล้วเทคนิคทำโฆษณาทั้ง 9 ข้อนี้จะไม่ประสบความสำเร็จเลย ถ้าคุณวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายและนำเสนอ Fanpage ได้ไม่ตรงตามกฎของ Facebook ซันนี่แนะนำให้คุณมีที่ปรึกษาด้านการตลาดออนไลน์ไว้ข้างกายจะดีกว่านะคะ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับคุณและกลุ่มเป้าหมายของ Fanpage   สามารถอ่านรายละเอียดบริการดูแลเพจโซเชียลมิเดียเพิ่มเติมได้ที่นี่ : https://sunnysideupstudio.net/th/social-media-page 

 

Leave a comment