Coffee Shop Marketing : เปรียบเทียบการตลาดร้านกาแฟ
| |

Coffee Shop Marketing : เปรียบเทียบการตลาดร้านกาแฟ

เคยสงสัยไหม ว่าการตลาดของร้านกาแฟแต่ละรูปแบบนั้นแตกต่างกันอย่างไร? ระหว่างร้านแฟรนไชส์ดังกับร้านกาแฟที่เปิดเองเป็นร้าน Stand Alone ยิ่งเราอยู่ในยุคที่สามารถพบเห็นคาเฟ่ได้แทบจะทุกมุมตึก ทั้งยังมีให้เลือกดื่มได้หลายระดับราคาและคุณภาพแบบนี้ เค้าแข่งกันที่อะไรนะ?  ปฏิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบัน ‘กาแฟ’ กลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่แทบจะขาดไม่ได้สำหรับใครหลายๆ คน โดยเฉพาะกาแฟสดที่เริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญในตลาดกาแฟช่วงหลายปีให้หลังมานี้ ส่งผลให้ร้านกาแฟผุดขึ้นมามากยิ่งกว่าดอกเห็ดในหน้า แน่นอนว่าแผนการตลาดของร้านกาแฟแต่ละรูปแบบย่อมแตกต่างกันไปตามความต้องการของลูกค้าที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย ☕ ซันนี่ได้นำจุดเด่นของแผนการตลาดสำหรับร้านกาแฟแต่ละรูปแบบมารวบรวมไว้ให้แล้ว มาดูกันว่าคาเฟ่แต่ละสไตล์นั้น จะ ‘เสิร์ฟ’ ความต้องการให้แก่ลูกค้าได้อย่างไรบ้าง ร้านกาแฟแบรนด์ดัง/แฟรนไชส์ คือร้านกาแฟที่เราสามารถซื้อสิทธิในการใช้เครื่องหมายการค้าจากเจ้าของแบรนด์ได้โดยมีเงื่อนไขและราคาการซื้อแฟรนไชส์ที่แตกต่างกันไป พูดง่ายๆ ก็คือ เราสามารถซื้อแฟรนไชส์ร้านกาแฟเพื่อมาเปิดสาขาภายใต้ชื่อแบรนด์นั้น โดยมีเราเป็นเจ้าของร้าน ตัวอย่างร้านกาแฟแฟรนไชส์ Starbucks Coffee Café Amazon Coffee World Inthanin การตลาดร้านกาแฟแบรนด์ดังซึ่งมีสาขากระจายอยู่ทั่วประเทศนั้นย่อมแตกต่างจากร้านกาแฟที่เปิดเอง ยกตัวอย่างเช่น ‘Starbucks’ ทำไม Starbucks ถึงแข็งแกร่ง? ⭐เพราะสตาร์บัคส์ไม่ได้นิยามตัวเองเป็นร้านกาแฟ แต่นิยามตัวเองเป็น ‘บ้านหลังที่3’ โดยให้ความสำคัญกับการสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ที่จะทำให้ลูกค้ามีความสุขและได้รับประสบการณ์ที่ดีทุกครั้งเมื่อเข้ามาซื้อกาแฟ จุดเด่นคือ มาตรฐานที่มีความมั่นคงและสม่ำเสมอเหมือนกันทุกสาขา ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการที่ดี คุณภาพของเครื่องดื่ม และรสชาติอันคงที่ นอกจากนั้นยังมีบรรยากาศและการตกแต่งร้านที่ถูกคิดมาแล้วว่าจะทำให้ลูกค้ารู้สึกสบายใจเมื่อได้เข้ามานั่ง รวมไปถึงการวางชั้นของที่ระลึกไว้ในจุดซึ่งจะทำให้ผู้ที่ต่อแถวรอคิวซื้อเครื่องดื่มสามารถมองแก้วน้ำคอลเลคชั่นใหม่ระหว่างรอได้โดยไม่เบื่อ ซึ่งนอกจากสตาร์บัคส์จะขยันผลิตแก้วน้ำและสินค้าต่างๆ มาแทบจะทุกเทศกาลแล้ว ยังมีการจัดโปรโมชั่นและเครื่องดื่มพิเศษที่แวะเวียนมาให้ลูกค้าได้ลิ้มลองเมนูใหม่ๆ อยู่เสมอ…